วันอาทิตย์ ที่ 09 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 16.48 น.
เมื่อเวลา11.30 น.วันที่ 9 ส.ค. 2563 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ทุกสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ของกรมอุทยานฯ ปราบปรามดำเนินคดี กับร้านค้าสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ป่า ที่ผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง
ทั้งนี้นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายประทีป เหิมพยัคฆ์ ผู้อำนวยการส่วนสัตว์ป่า นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบปราบปราม ร้านค้าขายเนื้อสัตว์ป่า สองข้างทางถนนสาย323ไทรโยค- กาญจนบุรี อย่างต่อเนื่อง
โดยให้เจ้าหน้าที่ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว เข้าไปล่อซื้อเนื้อสัตว์ป่า จากร้านค้าที่โฆษณาหน้าร้าน ขายเนื้อสัตว์ โดยติดข้อความขาย "กวาง" "กระต่าย" บริเวณข้างถนนสายไทรโยค -กาญจนบุรี บ้านท่าเสา หมู่ที่3 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
เจ้าหน้าที่ได้ถามซื้อเนื้อสัตว์ป่า จากน.ส.สุวิมล กุมาทะ อายุ 47 ปี ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี คนขาย เจ้าของร้านค้า เป็นเนื้อกวางจำนวน 1 กก. ราคา 250 บาท และส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่ ที่ซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงกับร้านค้าดังกล่าว เข้าทำการตรวจสอบร้านค้า โดยน.ส. สุวิมลอ้างว่าเป็นเนื้อกวางเลี้ยงรูซ่า ไม่ใช่เนื้อกวางป่าสัตว์ป่าคุ้มครอง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ทราบว่า ถึงแม้จะติดป้ายโฆษณาว่า "กวาง" และอ้างว่า เป็นเนื้อกวางเลี้ยงรูซ่าที่สามารถซื้อ ขาย ได้ก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันการนำเอา "กวางป่า" ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มาขายโดยอำพรางว่า เป็นเนื้อ กวางรูซ่า และเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นการหลีกหลบเลี่ยงกฎหมาย
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งนางสาวสุวิมลว่า จะนำชิ้นเนื้อสัตว์ดังกล่าวตามที่อ้างว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์ป่า ไปตรวจDNA ที่ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานฯ หากผลตรวจ DNA ชิ้นเนื้อสัตว์เป็นเนื้อกวางป่า ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองลำดับที่ 14 นางสาวสุวิมลจะต้องถูกดำเนินคดี ตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งนางสาวสุวิมลรับทราบ และคณะเจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน
นายนิพนธ์ฯ เผยต่อไปว่า ขอเตือนไปยังร้านค้าทั้งหลาย ที่ยังแสดงข้อความโฆษณาหน้าร้านว่า เป็น "กวางป่า" หรือ"กระต่ายป่า" หรือ"เก้ง" หรือสัตว์ป่าอื่นๆ อันเป็นการสนับสนุนทางอ้อมให้มีการค้าหรือล่า สัตว์ป่าสงวน หรือ สัตว์ป่าคุ้มครอง
รวมทั้งกรณีเจ้าหน้าที่นำชิ้นเนื้อสัตว์ที่ยึดไว้ดังกล่าว ไปตรวจพิสูจน์ DNA หากผลปรากฎว่า ไม่ใช่เนื้อสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่เป็นเนื้อสัตว์เลี้ยง เช่น เนื้อลูกวัวมาย้อมสีแดง แล้วหลอกขายว่าเป็นเนื้อ"กวางป่า" หรือโฆษณาติดป้ายว่า เป็นกวางป่า ซึ่งที่แท้จริงแล้วเป็นเนื้อสัตว์เลี้ยงอย่างกวางรูซ่าก็ตาม แม้คนขายจะไม่ผิดตามกฎหมายพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 แต่ก็เป็นการหลอกลวงผู้ซื้อ ซึ่งเป็นผู้บริโภค ก็ต้องผิดกฎหมายอาญา ม. 271 ฐาน ผู้ใดขายของโดยหลอกลวง ด้วยประการใดๆให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณ แห่งของนั้นอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รวมทั้งผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47 ฐานเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่น อันเกี่ยวกับสินค้า หรือบริการ มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จึงขอเตือนว่า ร้านค้าที่มีพฤติกรรมโฆษณา หลอกลวงผู้บริโภคในการขายเนื้อสัตว์ป่าเก๊ หรือเนื้อสัตว์เลี้ยง โดยหลอกลวงโฆษณาว่าเป็นเนื้อสัตว์ป่า เช่น "กวางป่า""กระต่ายป่า" จึงขอให้ยกเลิกกระทำดังกล่าวเสีย มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างเด็ดขาดต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ ทางคณะเจ้าหน้าที่ ได้เข้าจับกุม ร้านค้าขายเนื้อกวางป่า โดยได้ติดป้ายโฆษณาหน้าร้านค้าว่า ขายเนื้อ"กวางป่า" ที่บริเวนริมถนนสาย323ไทรโยค-กาญจนบุรี ในข้อหาค้าเนื้อ"กวางป่า"โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำและปรับ และส่งดำเนินคดีสภ.ไทรโยคไปแล้ว
August 09, 2020 at 04:48PM
https://ift.tt/2DDmTXM
ลุยกวาดล้างร้านค้าขายเนื้อสัตว์ป่า ริมถนนไทรโยค เตือนคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้าน - บ้านเมือง
https://ift.tt/2whLr5e
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ลุยกวาดล้างร้านค้าขายเนื้อสัตว์ป่า ริมถนนไทรโยค เตือนคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้าน - บ้านเมือง"
Post a Comment